ฮิลลารี ลั่น! ขอยืนข้างกลุ่มผู้ประท้วง หลังทรัมป์’ สั่งห้ามคน7ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ

http://www.matichon.co.th/news

78

 

กรณี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าทำตามสัญญาในนโยบายช่วงการรณรงค์หาเสียง ไม่สนเสียงโลกก่นด่า โดยได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารชุดใหม่ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การระงับโครงการเปิดรับผู้อพยพของสหรัฐเป็นเวลา 120 วัน ห้ามรับผู้อพยพชาวซีเรียจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ระงับการออกวีซ่า 90 วันสำหรับผู้เดินทางมาจาก 7 ประเทศที่ถูกระบุว่าเป็นประเทศที่น่ากังวล ประกอบด้วย ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน

หลังจากนั้น ได้มีกลุ่มผู้ชุมนมประท้วงที่บริเวณท่าอากาศยาน เจเอฟเค ในนครนิวยอร์ก เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหารที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ลงนามคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศ คือ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เข้าสหรัฐฯ โดยมาตรการกลั่นกรองด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่ประกาศใช้กระทันหันทำให้ผู้โดยสารจากหลายสายการบินที่เข้าข่ายต้องถูกกักตัวไว้ที่สนามบินไม่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองได้ และต้องถูกส่งกลับ โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้เบื้องต้นเป็นเวลา 90 วัน ขณะเดียวกันก็เกิดปฏิกิริยาอย่างกว้างขวางมีการประท้วงลุกลามไปไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ทั้งในกรุงวอชิงตัน และนครอื่นๆเช่นกัน

ล่าสุดวันนี้ (29 ม.ค.) นางฮิลลารี่ คลินตัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ตัวแทนพรรคเดโมแครต และช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับดอนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความระบุว่า “ดิฉันขอยืนอยู่เคียงข้างผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันทั่วประเทศในคืนนี้ เพื่อปกป้องหลักการ คุณค่า และรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา”