เมื่อเวลา 20.00น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่ขุมน้ำขนาดใหญ่ ใกล้หาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งเป็นจุดที่พบจระเข้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไล่ล่าจระเข้ของกรมประมง 2 นาย ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านจากพื้นที่หาดป่าตอง 5 คน เจ้าหน้าที่จากสวนจระเข้ภูเก็ต คร๊อกโคได 2 นาย และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่หลายหน่าวยงาน เริ่มการค้นหาทั้งทางบกเเละทางน้ำ โดยทางนำ้ใช้เรือ3ลำ ประกอบด้วยเรือวางอวน1ลำ เรือลาดตระเวน 2ลำ เเละทางบกใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ประจำอยู่ตามจุดต่างโดยรอบขุมน้ำ กว่า 15 นาย

โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่เริ่มใช้เรือลาดตระเวนไปรอบๆขุมน้ำ ก็พบเห็นจระเข้หลายครั้ง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะจระเข้อาศัยความเชี่ยวชาญ มุดว่ายน้ำไปได้หลายครั้ง

กระทั่งในเวลาประมาณ 21.30 น.เจ้าหน้าที่สามารถต้อนเข้าหาฝั่ง และพบว่าจระเข้หลุดเข้าไปอยู่ในอวนชั้นในที่ล้อมดักไว้โดย จึงใช้อวนล้อมที่เหลืออีก2ชุดทำการล้อม 3 ชั้น กันไม่ให้จระเข้ออกจากริมฝั่ง เเต่จังหวะที่กำลังล้อมอวนชั้นที่3 จระเข้ได้พุ่งเข้าชนเรือลากอวนเสียงดังสนั่นทำให้เจ้าหน้าที่ตกใจ เเต่พยายามส่องไฟค้นหาก็พบว่าจระเข้ยังอยู่ในอวนชั้นใน จึงพยายามไล่ต้อนอีกครั้งจนพบตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพยายามรวบอวนเพื่อจับ แต่จระเข้ได้ใช้แรงสะบัดอวนขาดก่อนมุดออกไปได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงต้องเริ่มกระบวนการค้นหาใหม่ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามในเวลา 03.30 น. วันที่ 1 กันยายน ทีมจับจระเข้แจ้งข่าวดีว่า สามารถจับจระเข้ได้ โดยการต้อนเข้าวงล้อมอวนก่อนจะรวบตัวได้ใกล้ชายฝั่งด้านทิศตะวันตก ซึ่งจุดเชื่อมต่อทะเล ห่างจากฝั่งไม่กี่เมตร โดยหลังเจ้าหน้าที่ใช้แผนกดดันอย่างต่อเนื่องทำให้จระเข้ว่ายน้ำจนอ่อนแรงและเริ่มเข้าหาฝั่ง และถูกต้อนเข้าในแนวอวนที่วางไว้ ก่อนใช้อวนหลายชั้นล้อมซ้อนกันจนสามารถจับตัวได้

นาย นิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มน้ำตาปี กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับเกือบสำเร็จ 2 ครั้งก่อนหน้าแต่สามารถหลุดไปได้ ในเวลาประมาณ 03.30 น. ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นจระเข้เข้าไปริมฝั่ง จึงใช้วิธีการล้อมจับด้วยอวนขนาดใหญ่หรืออวนปลาบึก ก่อนจะใช้อวนตาเล็กอีก 4 ชั้น รวมเป็น 5 ชั้น เข้าไปล้อมภายในบีบวงให้แคบ ก่อนจะรวบซ้อมเข้าหากัน โดยไม่มีการทำให้จระเข้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำขึ้นบนเรือนำมายังชายฝั่ง โดยจระเข้ตัวดังกล่าววัดความยาวเบื้องต้นประมาณ 3 เมตร แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นจระเข้น้ำจืดหรือจระเข้น้ำเค็มกันแน่ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ระบุว่า จระเข้ตัวดังกล่าวไม่ได้มีความดุร้าย แต่เป็นจระเข้ที่ขี้เล่น มีความเฉลียวฉลาด เพราะตั้งแต่ช่วงค่ำยันสว่างจระเข้ไม่ยอมเข้าฝั่ง เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ล้อมอวนจับ จนสามารถหลบจากอวนปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ได้ แต่สุดท้ายก็คาดว่าจะหมดแรง ซึ่ง ใช้เวลาเกือบทั้งคืนของคืนที่ 2

ทั้งนี้ในส่วนของจระเข้ นั้นจะนำไปดูและที่บ่อจระเข้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต บ้านพารา หมู่ 4 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญดูแลตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเช้าวันนี้นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะเดินทางไปตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบจุดบนท้ายทอยของจระเข้ในเบื้องต้นพบมีจุด 2 จุด ที่ชี้ว่าจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้น้ำจืด แต่ต้องรอการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง