นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯมอบนโยบายให้พาณิชย์ภาค (Mini MOC) จำนวน 6 ภาค ซึ่งมีผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ 6 คนเป็นผู้ดูแลในแต่ละภาค และให้พาณิชย์จังหวัดที่ประจำในจังหวัดต่างๆ ติดตามสถานการณ์ผลผลิตและราคาผลไม้เป็นการล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสั่งการให้ติดตามผลผลิตลำไยที่กำลังจะออกสู่ตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ โดยได้รับรายงานว่าปีนี้ลำไยไม่น่าจะมีปัญหาด้านราคา เพราะขณะนี้ผู้รวบรวมผลไม้ (ล้ง) คนไทยได้เตรียมจะเข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกร ตั้งเป้าจะซื้อให้ได้ 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อส่งออกไปยังจีน อินเดีย เวียดนาม และเมียนมา

นางอภิรดี กล่าวว่า สำหรับสับปะรดที่เกษตรกรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก ลำปาง และอุตรดิตถ์ ออกมาเรียกร้องให้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำนั้น ได้ประสานโรงงานสับปะรดกระป๋องเข้าไปรับซื้อแล้ว ส่วนสับปะรดที่ไม่ใช้ในโรงงาน เช่น ที่จังหวัดลำปาง ได้ประสานห้างค้าปลีกสมัยใหม่เข้าไปช่วยรับซื้อ และกระจายผลผลิตไปยังสาขาของห้างทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันราคาได้ขยับขึ้นมาเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 4.70-5.00 บาท

นางอภิรดี กล่าวว่า สำหรับทุเรียนปีนี้ไม่มีปัญหาด้านราคา แม้ว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อน เพราะมีความต้องการเพิ่มขึ้น จากการจัดงานแสดงสินค้าและจัดตลาดเฉพาะ(Magnet Market) ทุเรียนหลายจังหวัด ขณะที่เงาะ มังคุด ได้ประสานเชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งผลิตกระจายไปยังตลาดต่างๆ และห้างค้าปลีก ทำให้ราคาไม่มีปัญหา ส่วนลองกอง ที่เดิมคาดว่าจะมีปัญหาด้านราคา เพราะผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากถึง 1.4 แสนตัน แต่เจอพายุ ทำให้ผลผลิตลดลงเหลือ 6 หมื่นตัน ก็เลยไม่มีปัญหา