https://www.matichon.co.th/news/
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บริษัท เอช วี พลาส จำกัด เลขที่ 18/23 หมู่ 5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 30 ไร่เศษ ห่างจากถนนเศรษฐกิจ 1 เข้าไปประมาณ 500 เมตร โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่โกดังอาคาร 2 เป็นอาคารขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บสินค้า ทั้งแผ่นพลาสติกสำเร็จรูป เสื่อน้ำมันที่รอการส่งออก และวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิต จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และยากต่อการเข้าไปดับเพลิงให้สนิทลงได้โดยง่ายนั้น ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางด้านของนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จากทางเจ้าของโรงงาน และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคน พร้อมกันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อขอรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่เข้ามาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้นายวิทยา จันทร์เสนะ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร กระชับพื้นที่เฝ้าดูแลสถานการณ์และควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฯ ตลอดทั้งคืน
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 26 มิถุนายน หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านมากว่า 10 ชั่วโมงแล้วนั้น ก็ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่ยังคงมีเพลิงโหมลุกไหม้อยู่ในโกดัง ซึ่งนายวิทยา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า ยังคงต้องฉีดน้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ประกายไฟที่ลุกอยู่ในตัวอาคารดับลงก่อน ส่วนการใช้โฟมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้มีการนำรถโฟมมารอพร้อมตลอดเวลา แต่ที่ไม่ได้ใช้เพราะว่า หากฉีดโฟมลงไปบนหลังคาของตัวอาคารที่ไม่มีประกายไฟพุ่งขึ้นมา ก็จะไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น แต่ในช่วงสายของวันนี้ก็จะลองฉีดโฟมดูก่อน 1 คันรถ หากเป็นผลดีก็จะฉีดต่อไปอีกเรื่อยๆ เพื่อให้เปลวไฟที่พุ่งขึ้นมาดับลงก่อน จากนั้นก็จะต้องมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปตลอดทั้งวัน เพราะด้วยพลาสติกที่ถูกไฟไหม้นั้นจะจับกันเป็นก้อน ทำให้ความร้อนยังคงระอุอยู่ด้านล่าง
ด้านนายชุติเดช วิวัฒนขจรสุข เจ้าของโรงงาน บอกว่า หลังจากที่เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นนั้น ก็ได้มีการเรียกพนักงานที่ดูแลโกดังเก็บสินค้ามาสอบถามแล้ว โดยพนักงานทุกคนยืนยันว่า ก่อนปิดโกดังได้ทำการถอดปลั๊กไฟทั้งหมดออก และหัวหน้าผู้ควบคุมก็ได้ตรวจตามระเบียบของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย จึงเชื่อได้ว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะเกิดขึ้นจากตรงจุดไหนนั้น ก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหลังจากที่เพลิงสงบและความร้อนภายในตัวอาคารเย็นลง โดยในวันนี้ก็ได้สั่งให้พนักงานหยุดงานไปก่อน เพื่อรอให้โกดังที่เกิดเพลิงไหม้ดับลงและคลี่คลายสถานการณ์ให้เรียบร้อย ส่วนค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำว่า 100 – 200 ล้านบาท เพราะภายในตัวอาคารนั้น แม้จะไม่ได้มีกระบวนการผลิต แต่ก็มีทั้งเครื่องจักรที่สั่งเข้ามาใหม่เพื่อรอการติดตั้งจำนวนหลายตัว วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เพิ่งสั่งเข้ามาเช่นเดียวกัน และยังมีแผ่นพลาสติก กับ เสื่อน้ำมันจำนวนมากที่ผลิตแล้วเพื่อรอการส่งออก
สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้แบ่งพื้นที่การทำงานแยกออกเป็นทั้งหมด 4 ตัว อาคาร โดยเคยเกิดเพลิงไหม้ขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ตัวอาคารในส่วนของกระบวนการผลิต ในซึ่งในครั้งนั้นก็เสียหายเกือบ 300 ล้านบาท แต่หลังจากที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ 1 ปี โดยในเดือนพฤษภาคม 2558 นั้น เมื่อทางโรงงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ได้เป็นผู้ที่มอบแผ่นพลาสติกและเสื่อน้ำมันเกือบ 3,000 ม้วน ให้กับทางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งมอบให้กับประเทศเนปาล เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก