จ้างฆ่ากำนันเตี้ย 2 แสน “บิ๊กแป๊ะ” เค้นสอบเอง หักปมที่ดิน ส.ป.ก.
ผบ.ตร.นำแถลงจับกุม 5 ผู้ต้องหาทีมสังหาร “กำนันเตี้ย” โดยมีกำนันดังท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคนจ้างวานมือปืนลั่นไกในราคา 2 แสนบาท ชนวนเหตุความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 120 ไร่
จากกรณีคนร้ายขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีแดง ทำทีขอซื้อเครื่องดื่มชูกำลังที่บ้านนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือกำนันเตี้ย กำนันตำบลผาตั้ง สบโอกาสใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. จ่อยิงขมับกำนันเตี้ยเสียชีวิตคาห้องครัว บ้านเลขที่ 152 หมู่ 6 บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อช่วงสายวันที่ 1 ก.พ. ต่อมามีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำทีมกองปราบปรามและชุดสืบสวน บช.น. บุกรวบตัวมือปืน คนจ้างวาน ผู้เกี่ยวข้อง รวม 5 คนในคดีดังกล่าวได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 ก.พ.63 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผบช.ภ.4 พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3. บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางมาสอบปากคำนายสามารถ ทิพยศักดิ์ อายุ 57 ปี อดีตกำนัน ต.สมอ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้จ้างวาน นายสำริด สังข์สิงห์ อายุ 59 ปี ผู้จ้างวาน นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง อายุ 55 ปี คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน ส่วน น.ส.พนิดา จุนเด็น อายุ 31 ปี แฟนสาวนายธนภูมิ ซึ่งถูกจับกุมด้วย ไม่ได้พาตัวมานั่งสอบปากคำด้วย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ก.พ. มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงกำนันเตี้ยเสียชีวิต หลังเกิดเหตุตนสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ตนเองก็ได้ลงพื้นที่ จ.หนองคาย ในวันที่ 3 และ 11 ก.พ. จนวันที่ 13 ก.พ. ศาลจังหวัดหนองคายอนุญาตออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหา ตำรวจจึงจับคนร้ายทั้งหมดในทันที
ส่วนสาเหตุเนื่องจากตัวกำนันเตี้ย ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 120 ไร่ของกลุ่มผู้ต้องหาที่ถือครอบครองปลูกต้นยางพารา จนถูกทางการยึดคืนเป็นผืนป่าชุมชน โดยกำนันเตี้ยเป็นผู้บริหารจัดการ จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ต้องหาจนต้องจ้างนายธนภูมิ มือปืน ในราคา 2 แสนบาท มายิงกำนันเตี้ย จนเสียชีวิตคาบ้าน เบื้องต้นนายธนภูมิ รับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นให้การปฏิเสธ