https://www.matichon.co.th/news/
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมสถานีกลางบางซื่อ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 ไปอยู่ในพื้นที่หมอชิตเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์บำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อคืนพื้นที่หมอชิต 2 ซึ่งอยู่ในแปลงซี ตามแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)นำไปดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(พีพีพี)ต่อไป
นายพิชิต กล่าวว่า สำหรับพื้นที่หมอชิต 1 ที่ บขส.จะย้ายกลับไปนั้น จะเป็นการใช้พื้นที่ด้านบนของอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยจะเป็นการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมขึ้นไปอีกหลายชั้น เพื่อรองรับการให้บริการกับประชาชนได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันจะมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารด้วย โดยจะเป็นการให้บริการในลักษณะเดียวกันกับสถานีโตเกียวของญี่ปุ่น ที่มีการเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบที่ทันสมัย
“ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมธนารักษ์ที่ให้สัมปทานบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัดหรือบีเคที เป็นผู้พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ แต่ในจำนวนพื้นที่ดังกล่าวทางกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปใช้ได้ 1.1 แสนตารางเมตร(ตร.ม.) ดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้เป็นพื้นที่ของ บขส.ได้ โดยจะบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางกับสถานีกลางบางซื่อด้วย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)จะทำหนังสือแจ้งไปยัง บขส.เพื่อดำเนินการตามมติที่ประชุม และแจ้งกรมธนารักษ์รับทราบเกี่ยวกับการเข้าไปใช้พื้นที่ คาดว่าจะสามารถย้ายเข้าไปได้ประมาณปี 2566 หลังจากบีเคทีก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จ”นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต กล่าวว่า เมื่อมีข้อสรุปเรื่องการย้าย บขส.ไปอยู่ในพื้นที่เดิม แทนการย้ายไปอยู่ในพื้นที่แปลงเอ ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ทาง รฟท.จะเดินหน้าตามขั้นตอนเพื่อหาเอกชนเข้ามารับสัมปทานพัฒนาพื้นที่แปลงเอ ซึ่งจะพัฒนาเป็นสมาร์ท บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ มีพื้นที่ 35 ไร่ ระยะสัมปทาน 30 ปี วงเงินลงทุน 11,573 ล้านบาท คาดว่าปลายปีนี้ทาง รฟท.จะประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจได้ จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปีจึงจะแล้วเสร็จ