ทรัมป์ เผยเบื้องหลัง สั่งโดรนถล่มผู้บัญชาการกองทัพอิหร่านตาย ลั่นเพื่อหยุดสงคราม

ทรัมป์ เผยเบื้องหลัง สั่งโดรนถล่มผู้บัญชาการกองทัพอิหร่านตาย ลั่นเพื่อหยุดสงคราม

https://hilight.kapook.com/

 
          โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งใช้โดรนถล่มสังหาร ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน ลั่นเพื่อเป็นการหยุดยั้ง ไม่ใช่เริ่มต้นสงคราม ด้านอิหร่านประกาศแก้แค้น
 
ทรัมป์ เผยเบื้องหลัง สั่งโดรนถล่มผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน
ภาพจาก Evan El-Amin / Shutterstock.com
          วันที่ 4 มกราคม 2563 บีบีซี รายงานความคืบหน้า กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สั่งใช้โดรยิงถล่มคาเซม ซูลีมานี (Qasem Soleimani) ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน ที่สนามบินนานาชาติแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา จุดชนวนแค้นครั้งรุนแรง และก่อให้เกิดความตึงเครียดครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยทางอิหร่าน สาบานว่าจะแก้แค้นอย่างจริงจัง ต่อผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการเสียชีวิตครั้งนี้

ขณะที่ทาง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาประกาศว่า “ทางสหรัฐฯ ได้ทำการจู่โจมอย่างแม่นยำและไร้ข้อผิดพลาด สังหารคาเซม ซูลีมานี ผู้ก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก โดยซูลีมานี วางแผนที่จะโจมตีนักการทูตและเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกัน แต่ทางสหรัฐฯ ทราบเรื่องและยุติแผนดังกล่าวไปได้”

ทรัมป์ เผยเบื้องหลัง สั่งโดรนถล่มผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน
ภาพจาก IRAQI MILITARY / AFP
          ทั้งนี้ ทรัมป์ ระบุว่า การสังหารคาเซม ซูลีมานี “เพื่อเป็นการหยุดยั้งสงคราม ไม่ใช่การเริ่มต้นสงคราม” และจะมีการส่งทหารสหรัฐฯ เพิ่มอีก 3,000 นาย ไปยังตะวันออกกลาง เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง

ตามรายงานเผยว่า คาเซม ซูลีมานี เป็นหัวหอกในการปฏิบัติการทางการทหารต่าง ๆ ในตะวันออกลาง ในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds Force) อีกทั้งยังผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในอิหร่านอันดับสอง รองจาก อะยาตุลลอฮ์ อะลี คอเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ซึ่งภายหลังจากการเสียชีวิตของ ซูลีมานี คอเมเนอี ได้ออกมากล่าวว่า “การจากไปของเขาไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเส้นทางหรือภารกิจ แต่การแก้แค้นอย่างเต็มกำลังกำลังรอคอยอาชญากรผู้ที่ฆ่าเขาอยู่”

ทรัมป์ เผยเบื้องหลัง สั่งโดรนถล่มผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน
ภาพจาก HO / KHAMENEI.IR / AFP

สำหรับปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ แหล่งข่าวกองทัพอิรัก เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมทั้ง คาเซม ซูลีมานี และ อะบู มาห์ดี อัล-มูฮานดีส์ ผู้บัญชาการกลุ่มกาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ (Kataib Hezbollah) กองกำลังติดอาวุธในอิรักที่มีอิหร่านหนุนหลัง โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อิรักอยู่ในสถานะที่ลำบาก เนื่องจากอิรักเป็นพันธมิตรทั้งฝ่ายอิหร่านและสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ทางนายกรัฐมนตรี อาดิล อับดุล มะฮ์ดี ได้กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าว “เป็นการฝ่าฝืนอำนาจอธิปไตยของอิรัก และเป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่อศักดิ์ศรีของประเทศ” รัฐสภาของอิรักจะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 5 มกราคมนี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เตือนชาวอเมริกันในอิรักให้ออกจากประเทศโดยทันที