อีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์” และทรงเยี่ยมราษฎรชาวไทยเชื้อสายจีน ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ เมื่อเย็นวันที่ 6 ธ.ค.

โดยบรรยากาศที่ถนนเยาวราช ตั้งแต่ช่วงเที่ยงไปจนถึงก่อนการเสด็จพระราชดำเนิน ที่บริเวณซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ช่วงบริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีชาวไทยเชื้อสายจีนหลากหลายตระกูลแซ่จากทั่วประเทศและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทยอยเดินทางมารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จฯไปทรงเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์ ณ ประตูเฉลิมพระเกียรติ กันอย่างเนืองแน่น

นายปัญญา ภิสัชเพ็ญ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านขายยา สมบูรณ์เวชภัณฑ์ หนึ่งในร้านขายยาเก่าแก่ของย่านเยาวราชกล่าวว่า ปลาบปลื้มใจที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในการเสด็จพระราช ดำเนินมายังชุมชนเยาวราชครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงพระดำเนินเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาได้แต่เฝ้ารับเสด็จเวลาพระองค์ประทับรถยนต์ผ่านและทรงปั่นจักรยานในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระองค์ ที่เสด็จเยือนเยาวราชอย่างทรงเป็นกันเอง

ส่วนที่บริเวณมูลนิธิเทียนฟ้า มีประชาชนที่สวมเสื้อเหลืองมารอรับเสด็จฯ เต็มสองข้างทางตลอดถนนเยาวราช ระหว่างนั่งรอมีจิตอาสามาให้บริการดูแล แจกน้ำและขนมปัง โดยหนึ่งในจิตอาสา มีซิสเตอร์พาร์ค ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย สมัครเป็นจิตอาสาในงานครั้งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า สมัครเป็นจิตอาสาได้ปีกว่าแล้ว รู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสมาทำงานรับใช้คนอื่น โดยเฉพาะคนไทยที่มีจิตใจดี ยิ่งได้เห็นคนไทยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นนี้ ยิ่งดีใจที่ได้มาร่วมกิจกรรม ตนไม่เคยเฝ้ารับเสด็จ ครั้งนี้ได้มีโอกาสจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก

ขณะที่บริเวณหน้าวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ถนนเจริญกรุง มีประชาชนทั้งไทยและชาวต่างชาติต่างสวมเสื้อสีเหลือง มานั่งจับจองพื้นที่ริมสองฝั่งถนนเฝ้ารับเสด็จทั้ง 2 พระองค์ ที่จะเสด็จฯ มาทรงเปิดนิทรรศการ “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์” นายเกษม แจ้งหิรัญ อายุ 73 ปี กรรมการชุมชนเขตทุ่งครุ เปิดเผยว่า เดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จ รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ที่ได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดถือว่าเป็นบุญหาที่สุดมิได้

ต่อมาเวลา 17.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จ ออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ถึงวัดไตรมิตรวิทยาราม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธทศพลญาณ พระประทานพระอุโบสถและพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ในพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยมีพระสงฆ์วัดไตรมิตรฯ สวดเจริญพระพุทธมนต์ ที่บริเวณพระอุโบสถและใต้พระมหามณฑปฯ เสร็จแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย) ถวายของที่ระลึกเป็นพระพุทธรูป “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” ทองคำ หน้าตัก 5 นิ้ว

เวลา 17. 54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากวัดไตรมิตรวิทยาราม มายังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษาด้วยรถพระที่นั่ง โดยทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ให้พสกนิกรตลอดเส้นทางเสด็จฯนี้ ประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จต่างก้มลงกราบแนบพื้น เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้อง ไปทั่วบริเวณ

เมื่อเสด็จถึง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ประธานจัดงาน นาย แสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ประธานดำเนินการจัดงาน พร้อมคณะกรรมการและประชาชนเฝ้ารับเสด็จ นายจิตติกราบบังคมทูลถวายรายงานการจัดงานและเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามด้วยนายแสงชัย เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี นางสมศรี ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้แทนบริษัทห้างทองจินฮั้วเฮง จำกัด ทูลเกล้าฯ ถวายมังกรทองคำที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นางดาว ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้แทนบริษัทห้างทองจินฮั้วเฮง จำกัด ทูลเกล้าฯ ถวายม้าทองคำที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรริ้วขบวนต่างๆ จนถึงริ้วขบวนจงรักและภักดี เป็นการแสดงเอ็งกอ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแสดงเอ็งกอ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปรบพระหัตถ์ชื่นชมการแสดงพร้อมแย้มพระสรวล

จากนั้นเสด็จฯไปยังแท่นพิธีเปิดงาน ทรงกดปุ่มเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีมหาจักรีวงศ์” ก่อนเสด็จฯ ผ่านอุโมงค์ LED ทอด พระเนตรวีดิทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติภายในอุโมงค์ที่มีความโค้ง 180 องศาฯ โดยนิทรรศการเริ่มตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมมหา ราชวัง เป็นวังหลวง จัดสรรพื้นที่เปลี่ยนให้ชาวไทยเชื้อสายจีนได้มาอยู่ที่ตั้งทุกวันนี้ รัชกาลที่ 3 ทรงพระปรีชาด้านการค้าพาณิชย์ และส่งเสริมกองเรือพาณิชย์นาวีไทยไปสานสัมพันธ์สำเภาจีน ขณะที่รัชกาลที่ 4 ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดเงินตราแห่งสยามเป็นครั้งแรก รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนน อำนวยความสะดวกแก่วิถีชีวิตชุมชนชาวจีนย่านสำเพ็ง และพระราชทานนามว่า “ถนนเยาวราช” ในสมัยรัชกาลที่ 8 เสด็จฯเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนย่านสำเพ็ง รัชกาลที่ 9 ชาวจีนในประเทศไทยพร้อมใจกันสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์

จากนั้น เสด็จฯไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ นายชาญวิทย์ หิรัญอัศว์ ประธานกรรมการโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ และคณะกรรมการเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าภายในเก๋งประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) ทรงถวายผลไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนบูชา ทอดพระเนตรนิทรรศการเกริกฟ้า ก้องไกร ประชาไทยร่มเย็น จากนั้นนายชาญวิทย์ทูลเกล้าฯถวายมังกรทองคำที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นางวิไล หิรัญอัศว์ ทูลเกล้าฯถวายลูกท้อทองคำที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนเข้าสู่ห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธยและทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก แล้วเสด็จออกจากห้องประทับรับรอง ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรไปตามถนนเยาวราช เมื่อผ่านร้านทองจินฮั้วเฮง ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกจากผู้ประกอบการย่านเยาวราชที่รวมตัวกันทูลเกล้าฯถวาย จากนั้นเสด็จฯไปยังโรงแรมแกรนด์ไชน่าเสด็จฯ โดยลิฟต์ขึ้นไปยังห้องประทับพักผ่อนพระอิริยาบถที่ชั้น 18 แล้วเสด็จลงมาทรงพระดำเนินต่อไปยังวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระศรีอริยเมตไตรย พระประธานอุโบสถ และเทพเจ้าประจำวัด ทรงถวายผลไม้ ทรงวางพวงมาลัย

พระสงฆ์จีนนิกาย เจริญชัยมงคลคาถาถวาย พระพรชัยมงคล พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม พระคณาจารย์จีนธรรมวิริยาจารย์ รองเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เย็น และพระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ถวายของที่ระลึกและถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย ก่อนเสด็จฯ ยังวิหารเทพเจ้าประจำวัด จากนั้นทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก ได้เวลาอันสมควรเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

นายวรศักดิ์ ตั้งสิทธิ์ภักดี บุตรชายเจ้าของห้างขายทอง จินฮั้วเฮง เผยว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ในหลวง ร. 10 เสด็จฯมาแวะรับการถวายสิ่งของที่ประชาชนในย่านเยาวราช ทูลเกล้าฯถวายที่หน้าร้านจินฮั้วเฮง ร้านได้จัดทำมังกรทองและม้าทองคำแท้ตามปีพระราชสมภพเป็นกรณีพิเศษ ทูลเกล้าฯถวายในโอกาสมหามงคลนี้ ทางร้านเปิดกิจการนานกว่า 30 ปี เคยรับเสด็จฯสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเทพฯ วันนี้ทุกคนในร้านและชาวไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราชยินดีและเป็นเกียรติมากที่ทรงเสด็จฯมาเยี่ยมเราถึงบ้านและจะจดจำวันนี้ไว้ตลอดไป