เมื่อวันที่ 31 พ.ค. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับการติดต่อจาก บริษัทนำเข้ารถยนต์หรูยี่ห้อหนึ่ง เดินทางมาพบเพื่อชี้แจง กรณีดีเอสไอ เข้าตรวจะอายัดรถไว้ ซึ่งดีเอสไอก็ได้ชี้แจงไปต้องดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน เพราะมีการแจ้งเบาะแสรถยนต์ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษมายังดีเอสไอ อีกทั้งยังพบว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องดำเนินการนำเข้าอย่างผิดขั้นตอนทำให้รัฐได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ดีเอสไอจะรีบดำเนินการตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ที่อายัดโดยเร็ว นอกจากนี้ยังมัผู้ครอบครองรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมก มาและอยู่ในบัญชี 42 คัน ที่ประเทศอังกฤษส่งมายังประเทศไทย ได้เดินทางมาพบและต้องการรถยนต์คืน ซึ่งดีเอสไอก็ต้องทำความเข้าใจว่าไม่สามารถคืนรถยนต์ได้เพราะเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา ดังนั้นต้องไปฟ้องร้องกับทางบริษัทที่ขายให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามตนก็ได้รับการข่มขู่ว่าจะฟ้องร้อง แต่ตนไม่ได้สนใจอะไร

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบริษัทรถยนต์ที่เข้าพบดีเอสไอเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์โรลส์-รอยซ์ ได้รับผลกระทบทางธุรกิจเนื่องจากลูกค้าเริ่มไม่เชื่อมั่นในการซื้อรถยนต์กับทางบริษัทและมีปัญหาเริ่องการปล่อยเงิน จากทางธนาคาร ดีเอสไอได้ยืนยันกับทางบริษัทว่าอยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่สามารถถอนอายัดรถยนต์ได้ อีกทั้งต้องหลักฐานการประเมินภาษีขาด จากทางกรมศุลกากร เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี กับบริษัทนำเข้า คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ดีเอสไอมีแนวคิดให้รัฐบาลใช้ม.44 แก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากติดขัดเรื่องกฎหมายในการประเมินภาษีใหม่ ของกรมศุลกากร เพราะหากประเมินใหม่จะมีเจ้าหน้าที่่เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก