กสิกรไทยยืนจีดีพีโต3.3 มองส่งออกดีกว่าคาดโต2% แต่ยังห่วงบาทแข็ง

http://www.matichon.co.th/news

 

 

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้บริหารงานวิจัยศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยฯ ยังคงประมาณการณ์อัตราขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไทย ปี 2560 คาดว่าขยายตัวได้ 3.3% เท่ากับประมาณการณ์ในเดือนธันวาคม 2559 โดยไตรมาสแรกจะขยายตัวได้ 3.0% และไตรมาสที่สอง ขยายตัว 3.2% ทำให้ครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 3.1% ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก โดยไตรมาสสาม ขยายตัว 3.4% และไตรมาสที่สี่ ขยายตัว 3.5% ทำให้ครึ่งปีหลังขยายตัว 3.4% โดยแรงหนุนสำคัญการขยายตัวปีนี้มาจากการส่งออกที่ปรับดีขึ้นกว่าคาด ทั้งด้านราคาและปริมาณ คาดว่าจะขยายตัว 2.0% จากก่อนหน้าที่คาดขยายตัวเพียง 0.8% แต่ยังมีความกังวลเรื่องส่วนต่างราคาสินค้านำเข้าและส่งออกซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีกำไรลดลง ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านทำให้เมื่อแปลงสกุลเงินกลับมาบาททำให้ได้มูลค่าลดลง ขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ราว 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่คาดว่าจะอ่อนค่าลงหากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ ประเมินค่าเงินบาทสิ้นปีนี้ที่ระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ด้านการลงทุนภาครัฐที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักคาดขยายตัว 8.5% เท่ากับประมาณการณ์เดิม อย่างไรก็ตามการลงทุนเอกชนมองว่าจะขยายตัว 1.5% ลดลงจากเดิมที่ 2.8% เนื่องจากรอการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่จะเข้ามาในครึ่งปีหลังและความไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐและการเมืองในยุโรป ที่จะอาจจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกชะลอการลงทุน ส่วนการบริโภคเอกชนขยายตัว 2.2% แต่ยังมีแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่วนการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาและนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เพิ่มขึ้น

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัยศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ปีนี้จะเติบโต 4% จากปีก่อนที่เติบโตเพียง 2.4% ผลจากความต้องการของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนปรับมาจากการกู้ผ่านตลาดตราสารหนี้มาเป็นสินเชื่อ การลงทุนเอกชนที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการลงทุนภาครัฐทั้งก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ที่ปีนี้จะเริ่มกลับมาลงทุนหลังระบายสต็อกเหลือขายไปแล้ว โดยคาดว่าสินเชื่อธุรกิจจะเติบโต 3.0% จากปีก่อนที่ขยายตัว1.1% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 5.5% จากปีก่อนที่ขยายตัว 4.9% ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการแข่งขันระดมเงินฝากมากขึ้นจากสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ที่เริ่มตึงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก

“สินเชื่อช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ที่ผ่านมายังไม่เร่งขึ้นชัดเจนเพราะช่วงไตรมาสแรกเป็นฤดูกาลชำระคืนสินเชื่อและผู้ประกอบการยังรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจน คาดว่าสินเชื่อจะทยอยขยับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก่อนหน้านี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวระยะหนึ่งแล้วคาดว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้น” นางสาวกาญจนากล่าว