‘สมชัย’เข้าเก็บของ น้อมรับคำสั่ง คสช.-ไม่วิจารณ์ แย้มกลับไป’พีเน็ต’ ขอทำประโยชน์ให้บ้านเมือง

https://www.matichon.co.th/news/

‘สมชัย’เข้าเก็บของ สนง.กกต. น้อมรับคำสั่ง คสช.และไม่วิจารณ์ ปัดเดินเกมแสดงความเห็นเพื่อให้ คสช.มีคำสั่งปลด แย้มจ่อกลับไปทำงานพีเน็ต ยังไม่ชัดลงเล่นการเมืองหรือไม่ จ่อเปิดใจอีกครั้งศุกร์นี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. เดินทางมาสำนักงาน กกต.เพื่อเคลียร์งานและเก็บของ หลัง คสช.มีคำสั่งให้ยุติการทำหน้าที่ กกต. พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าของที่จะมาเก็บมีจำนวนไม่มากเพราะได้ทยอยเก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วันในการเก็บของหมด และวันศุกร์ที่ 23 มีนาคมน่าจะเป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้ หลังรับทราบคำสั่ง คสช.ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เพียงแต่อึดอัด เนื่องจากมีโทรศัพท์เข้ามาประมาณ 30-40 สาย ได้พยายามรับสาย แต่รับได้ไม่หมด ส่วนตัวไม่มีอะไรนอนหลับฝันดี ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเรียกร้องความยุติธรรม หลังจากนี้ก็ยังทำงานทุกวันเพียงแต่ว่าจะไปทำงานที่ไหนเท่านั้นเอง ไม่ใช่ไม่มีที่แล้วจะว่างเปล่า บทบาทการตรวจสอบการเลือกตั้งก็จะทำต่อไป อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่าหลังจากพ้นการเป็น กกต.ก็จะไปทำงานที่มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) และหลังจากนี้การแสดงความคิดเห็นก็จะเต็มที่เหมือนเดิม และจะขยายขอบเขตได้มากขึ้น จากเดิมที่พูดแต่เรื่องของการเลือกตั้ง แต่เมื่อไม่มีตำแหน่งหน้าที่ การให้ความเห็นต่อสาธารณะก็จะพูดได้กว้างขวางมากขึ้น และยืนยันว่าตนพ้นจากตำแหน่งก็ไม่กระทบต่อการทำงานของ กกต. เพราะมี 4 คนก็ทำงานได้ และ กกต.ทุกคนก็มีความรู้ความสามารถ เพราะฉะนั้นโรดแมปไม่เคลื่อนอยู่แล้วเพราะไม่มี กกต.สมชัย แต่มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น

นายสมชัยกล่าวอีกว่า การโพสต์เฟซบุ๊กว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เปิดหน้า คสช. ว่าเป็นความรู้สึกที่เป็นเกียรติจริงๆ เพราะไม่เคยมีใครที่จะได้เป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 ทุกฉบับ และเป็นข่าวยาวๆ ในสื่อ โทรทัศน์ และไม่มีใครที่สื่อจะให้ความสนใจมาก จึงถือว่าเป็นเกียรติ ส่วนหนึ่งเพราะได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่ เมื่อถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรที่เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคำสั่งพิเศษปลดออก นายสมชัยกล่าวว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และไม่กลัวว่าจะถูก คสช.เพ่งเล็งในการแสดงความเห็น เพราะตนรู้ตัวว่าพูดอะไร ไม่เคยพูดสิ่งที่เป็นเท็จ หยาบคาย ปลุกระดม นำเสนอแต่ข้อเท็จจริง

“ผมน้อมรับคำสั่งและไม่วิจารณ์ วันนี้จึงมาเก็บของอย่างเดียว” นายสมชัยกล่าว และปฎิเสธที่จะตอบคำถามว่า คำสั่งที่ออกมาเหมือนเป็นการปรามองค์กรอิสระหรือผู้เห็นต่างกับ คสช.หรือไม่ รวมทั้งการใช้คำสั่งดังกล่าวจะมีผลต่อการควบคุมการเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงประเด็นต่ออายุ 2 กกต. โดยนายสมชัยกล่าวว่า หลังเก็บของเสร็จในวันศุกร์ เวลา 15.00 น. จะเปิดใจอีกครั้ง ขณะนี้ขอเวลาไปเรียบเรียงเรื่องต่างๆ ให้แล้วเสร็จแล้วจะมาบอกให้ฟัง แต่เบื้องต้นภรรยาดีใจมากหลังทราบคำสั่ง เพราะก่อนหน้าที่อยากให้ยุติการทำหน้าที่ กกต.

ส่วนตำแหน่งเลขาฯ กกต. คิดว่าคำสั่ง คสช.ไม่ได้มีผลทำให้ขาดคุณสมบัติในการสมัครเลขาฯ เพราะไม่ได้มีกฎหมายใดที่เขียนว่า การถูกคำสั่งให้ยุติการทำหน้าที่เป็นลักษณะต้องห้ามของการสมัคร รวมทั้งตนก็ไม่ได้ถอนตัว ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ และหากเห็นว่าตนมีคุณสมบัติครบก็จะประกาศให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อ กกต. แต่คิดว่าเมื่อมีคำสั่ง คสช.ออกมาในลักษณะนี้ ก็น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับ กกต.พอสมควร เพราะการพิจารณาถ้าหากจะเลือกเราเพราะมีวิสัยทัศน์มีประสบการณ์ กกต.เองก็อาจจะลำบากใจที่จะต้องเลือก ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ในตำแหน่ง กกต. คิดว่าคงได้ตามปกติ เพราะคำสั่ง คสช.ให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ ไม่ใช่การไล่ออกหรือการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงจนถูกไล่ออกจากราชการ

เมื่อถามว่าตั้งใจแสดงความเห็นเพื่อให้ คสช.มีคำสั่งปลด นายสมชัยชี้แจงว่า ตนไม่เคยเดินเกมอย่างนั้น ตนก็ทำงานของตนไป โดยคิดว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อบ้านเมือง ก็ทำอย่างนั้นไป ไม่เคยคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ถือว่าเป็นการทำงานตามหน้าที่ แม้แต่ใน กกต. แม้แต่บทบาท กกต. ก็ไม่เคยคิดไปเข้าข้างใคร ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตนก็แสดงเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์หลายครั้ง จนคนคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่จริงๆ ไม่ใช่ ตนเห็นว่าอะไรไม่ถูกต้องก็จะให้ความเห็นในฐานะที่เราเป็น กกต. มีหน้าที่เห็นว่าอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องออกมาเตือนกัน ไม่คิดไปในเรื่องของการเล่นเกม เพราะไม่ใช่เด็กแล้ว จะไปเล่นเกมก็ไม่ทัน

ส่วนจะมีโอกาสไปเล่นการเมืองหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่าคงต้องประเมินตัวเอง ว่ามีประสบการณ์ในเรื่องอะไร มีความรู้อะไร และทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองในโอกาสใดบ้าง ซึ่งการทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ คงไม่ใช่อาชีพนักการเมืองเพียงอาชีพเดียว ที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง แต่ยังมีอาชีพอื่นๆ คงต้องดูไป จึงขอดูก่อนว่าจะมีอาชีพอะไรที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ซึ่งตอนนี้เป็นได้ทุกอาชีพยกเว้นกรรมการองค์กรอิสระ เพราะกฎหมายกำหนดเป็นได้แค่ครั้งเดียว