https://www.matichon.co.th/news/
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง ครั้งที่ 3 ที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเตรียมการสำหรับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเดินทางไปประชุมระดับผู้นำในเดือนมกราคม ทั้งนี้ ความร่วมมือในประเทศสมาชิกมีความก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะประเด็นที่จีนมีโครงการปรับปรุงร่องน้ำด้วยการระเบิดแก่งในแม่น้ำโรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคเหนือของไทย โดยจากการพูดคุย จีนมีท่าทีสร้างสรรค์ หลังรับทราบว่าเป็นปัญหาต่อวิถีชีวิตของคนไทย จึงพร้อมจะเลิกโครงการหรือปรับเปลี่ยน ซึ่งช่วยคลายความกังวลแก่คนไทยได้มาก ถือเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยด้วย
นายดอน กล่าวว่า ขณะนี้สถานะของประเทศไทยถือดีขึ้น หลังจากมีประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ที่สหรัฐฯถอดประเทศไทยออกจากกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List-PWL) ให้อยู่ในกลุ่มบัญชีจับตาธรรมดา (Watch List : WL) โดยเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่เรื่องอื่นๆในการปรับท่าทีของสหรัฐฯ เชื่อว่าหลายสิ่งที่รัฐบาลได้ทำนั้นได้ผลบวก และนับตั้งแต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปเยือนสหรัฐฯ ก็มีสัญญาณบวกมาโดยตลอด เช่น สหภาพยุโรป(อียู) ปลดธงเหลืองการประมงของไทย เป็นต้น
เมื่อถามว่าสัญญาณบวกเหล่านี้มาจากที่ประเทศไทยกำลังจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า มีส่วน แต่ไม่ใช่เพราะการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่รวมถึงพัฒนาการตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ที่บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพไม่มีความวุ่นวาย มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆโดยเร็ว และเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่มีการเตรียมการเป็นขั้นตอน
นายดอน ยังกล่าวถึงกรณีที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ได้เดินทางเข้าพบเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อขอให้ไทยกดดันเกาหลีเหนือว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมื่อปี 2558 สหรัฐฯก็ขอให้ไทยเป็นผู้แทนในการพูดคุยกับเกาหลีเหนือ จากนั้นเราก็ไปคุยกับเกาหลีเหนือถึงเมืองเปียงยาง โดยถามแทนสหรัฐฯว่าเกาหลีเหนือพร้อมพูดคุยหรือไม่ ซึ่งเกาหลีเหนือมีคำตอบที่สร้างสรรค์ โดยยินดีพูดคุย แต่ต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ดังนั้น จะเห็นว่าในช่วงรัฐบาล-คสช. ประเทศไทยคุยกับสหรัฐฯอยู่ตลอด ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการติดต่อกัน แต่เป็นการคุยกันนอกรอบ ทำให้มีพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ต่อสถานะของประเทศไทยอย่างที่เห็น