วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) ต่างแสดงความกังวลต่อคำตัดสินของศาลฎีกากัมพูชาที่สั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ตามคำฟ้องร้องของรัฐบาลสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ที่กุมอำนาจปกครองกัมพูชาแบบเด็ดขาดมานานกว่า 30 ปี โดยสหรัฐไม่เพียงเรียกร้องให้กัมพูชากลับคำตัดสินดังกล่าว แต่ยังให้คำมั่นด้วยว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้กัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวสหรัฐที่ออกมาในวันก่อนหน้าประณามคำตัดสินของศาลกัมพูชาว่าทำให้ประชาธิปไตยในกัมพูชาก้าวถอยหลัง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชายกเลิกการกระทำต่อต้านพรรคซีเอ็นอาร์พี ให้ปล่อยนายเขม โสกา หัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พีที่ถูกจับกุมคุมขังในข้อหากบฏสมคบต่างชาติล้มล้างรัฐบาล และอนุญาตให้พรรคฝ่ายค้าน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ดำเนินกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายของตนเองได้

ขณะที่คำสั่งยุบพรรคซีเอ็นอาร์พี ซึ่งยังจะมีผลให้ ส.ส.พรรคซีเอ็นอาร์พีกว่าร้อยคนถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีด้วยนั้น ทำเนียบขาวยังระบุถึงประเด็นนี้ว่า จะทำให้การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่จะมีขึ้นในปีหน้าจะไม่มีความชอบธรรม ไม่บริสุทธิ์หรือเที่ยงธรรม เนื่องจากคำตัดสินนี้ของศาลกัมพูชาจะทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของสมเด็จฯฮุน เซน ลงแข่งขันอย่างไร้คู่แข่ง นอกจากนี้ สหรัฐยังให้คำมั่นที่จะตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาในเรื่องนี้ โดยก้าวแรกทำเนียบขาวสหรัฐขู่ที่จะยุติการให้การสนับสนุนแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (เอ็นอีซี) ของกัมพูชา ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐยังได้ลงมติเรียกร้องให้กระทรวงการคลังและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐทำการพิจารณารายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาที่พัวพันกับการใช้อำนาจมิชอบให้อยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง เพื่อจะยึดทรัพย์และห้ามเดินทางเข้าสหรัฐด้วย

ด้านโฆษกอียูแถลงแสดงความห่วงกังวลต่อพัฒนาการทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกัมพูชา โดยชี้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาในปีหน้าจะไร้ความชอบธรรมหากปราศจากพรรคฝ่ายค้าน พร้อมกับย้ำว่า การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำก่อนที่กัมพูชาจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้ “โครงการทุกอย่างยกเว้นอาวุธ” ของอียู

ส่วนบรรยากาศในกรุงพนมเปญยังคงเป็นปกติ ไม่มีการประท้วงต่อคำตัดสินของศาลกัมพูชา ขณะที่ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะออกมาพูด

ขณะคืนวันก่อน สมเด็จฯฮุน เซน ออกกล่าวทางสถานีโทรทัศน์ บอกกับชาวกัมพูชาว่า การเลือกตั้งจะเดินหน้าจัดขึ้นต่อไปตามปกติ และยังกล่าวขอให้นักการเมืองในสังกัดพรรคซีเอ็นอาร์พีที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ให้มาเข้าร่วมกับพรรคซีพีพีของตนเอง

กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มพิทักษ์สิทธิที่ประณามคำสั่งยุบพรรคซีเอ็นอาร์พีว่าเป็นการทำลายประชาธิปไตยในกัมพูชา ยังเรียกร้องให้ประเทศผู้บริจาคและคู่ค้าสำคัญของกัมพูชาดำเนินการคว่ำบาตรทั้งยึดทรัพย์และห้ามเดินทางต่อบุคคลที่เป็นคนวงในของสมเด็จฯฮุน เซน เพื่อตอบโต้พัฒนาการที่เกิดขึ้นในกัมพูชาด้วย