นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ จัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 35 วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2560 ที่จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้แนวคิด “Executing Trade & Services 4.0 : เติบโต ทั่วถึง
แบบไทยเท่ ” มุ่งเน้นพัฒนาและยกระดับประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งจะมีการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ 3 เรื่องที่หอการค้าไทยจะกำหนดเป็นแนวทางการดำเนินงานให้สอดรับกับ Trade & Services 4.0 ประกอบด้วย

กลุ่ม 1 เรื่อง “Executing Trade and Investment with Inclusive Growth” ครอบคลุมเรื่องการลงทุนต่างๆ เริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในอีอีซี ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นมีความสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก รวมถึงอเมริกา และประเทศอื่นๆด้วย เมื่อกระแสการลงทุนกลับมาแล้ว จะต้องเตรียมรับมือทั้งเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การเตรียมบุคลากร เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นใหม่ ส่วนเรื่องการค้า หอการค้าไทย พยายามผลักดันการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้ายุคใหม่จะทำแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว ต้องมีระบบไอทีเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องเน้นปรับตัวของธุรกิจเข้าสู่อี-บิสสิเนส หารือเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าและความยากง่ายในการดำเนินธุรกิจ การลดต้นทุนค่าขนส่งให้ผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ และการเพิ่มช่องทางการค้าและส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดโลก

กลุ่ม 2 เรื่อง “Executing Agriculture and Food Processing with Inclusive Growth” ครอบคลุมเรื่องเกษตรและอาหาร เป็นกลุ่มสำคัญของไทย ซึ่งแต่ละปีอุตสาหกรรมอาหารสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเกษตรกร ยังคงมีรายได้สวนทางกับการเติบโตของอุตสาหกรรม ทุกภาคส่วนต้องปรับปรุงหรือปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ และก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง โดยกลุ่มนี้ จะหารือร่วมกันในเรื่อง 1. การส่งเสริมธุรกิจเกษตรและอาหารให้มีความพร้อมในการแข่งขันภายใต้ปัจจัยแวดล้อมที่มีความเสี่ยงโดยอาศัยกลไกที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมขับเคลื่อน 2. การสร้างและขยายผลมาตรฐานสินค้า และความปลอดภัยทางอาหาร เพื่อให้ได้มูลค่าต่อหน่วยมากขึ้น 3 .การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีความหลากหลาย 4. การสร้างเครื่องมือให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น และ 5. นำเสนอ Success Case ธุรกิจแปรรูปเกษตรและอาหารเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

กลุ่ม 3 เรื่อง “Executing Tourism and Services with Inclusive Growth” ครอบคลุมภาคบริการและการท่องเที่ยว ถือเป็นหัวใจหลัก ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ภาคบริการมีสัดส่วนประมาณ 50% ของจีดีพีประเทศไทย และมีการจ้างงาน 40% ของแรงงานทั้งประเทศ
คาดปีนี้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 35 ล้านคน และสร้างรายได้ 1.8 ล้านล้านบาท การท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง 10% ต่อปี ทั้งนี้ ปีหน้ารัฐบาลกำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก หอค้าไทย ก็จะเข้าไปมีบทบาทช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า เกษตรกร การขนส่ง เป็นต้น

“หอการค้าไทยมั่นใจว่าหลังจากนี้การบริโภคภายในประเทศ จะฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย จัดช้อปช่วยชาติ รวมถึงการฟื้นตัวของการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนของรัฐและเอกชน โดยยังคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โตได้เกิน 3.8% และเตรียมทบทวนตัวเลขใหม่หลังประชุมที่จ.สุราษฎร์ธานี ” นายกลินท์ กล่าว