ฉาวหนัก ! ลูกชาย สนช. แอบถ่ายใต้กระโปรงสาวที่อังกฤษ ก่อนโดนรวบทันควัน

https://hilight.kapook.com/

แอบถ่ายใต้กระโปรง
ภาพจาก NIKLAS HALLE’N / AFP

สื่ออังกฤษเผย ลูกชาย สนช. ก่อเหตุแอบถ่ายใต้กระโปรงสาวที่อังกฤษ ก่อนถูกศาลลงโทษห้ามเข้าเมือง 4 เดือน พร้อมจ่ายค่าปรับให้ผู้เสียหาย

วันที่ 21 มีนาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล สื่อจากอังกฤษ รายงานความคืบหน้าคดีของ นายปรัชญายุทธ ทัพเจริญ อายุ 27 ปี บุตรชายของนายยุทธนา ทัพเจริญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และอดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กับนางจุติพร ทัพเจริญ ผู้พิพากษา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษจับกุม หลังก่อเหตุแอบถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิงที่ร้านเสื้อผ้า

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นายปรัชญายุทธ ซึ่งเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรีเจนต์ ในกรุงลอนดอน ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านเสื้อผ้า Topshop ย่านถนนอ็อกซ์ฟอร์ด สังเกตเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยขณะที่เขากำลังเดินตามผู้หญิงหลายคนในร้าน โดยพบเห็นว่านายปรัชญายุทธมีกระเป๋าเป้สะพายหลัง และยกกระเป๋าขึ้นลงหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นเลนส์กล้องยาวอยู่ในกระเป๋า ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรียกตำรวจมาที่เกิดเหตุ และได้ยึดกล้องพร้อมจับกุมนายปรัชญายุทธ โดยจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบว่า นายปรัชญายุทธใช้กล้องถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวจริง พร้อมเผยว่าตนเองเลียนแบบจากกระแสในยูทูป

แอบถ่ายใต้กระโปรง

สื่อดังกล่าวอ้างอิงคำพูดของผู้พิพากษา อลิซาเบธ โรสโค แห่งศาลแขวงเวสต์มินสเตอร์ ที่ระบุในชั้นศาลว่า “ตนไม่ทราบว่านายปรัชญายุทธคิดอะไรอยู่ ทั้งที่อายุตั้ง 27 ปีแล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว” พร้อมกล่าวอีกว่า นายปรัชญายุทธ โชคดีมากที่มีครอบครัวคอยสนับสนุนอยู่ แต่นี่เป็นความรับผิดชอบของตัวเขาเอง เป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ ไม่เหมาะสม ขาดความเคารพยำเกรง และน่ารังเกียจมาก แต่เนื่องจากผู้พิพากษาไม่พบรูปหรือคลิปแอบถ่ายในอุปกรณ์อื่น ๆ ของนายปรัชญายุทธ จึงอาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นการก่อเหตุเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และนายปรัชญายุทธอาจไม่ได้ทำไปเพื่อสนองความพึงพอใจทางเพศส่วนตัว แต่ทำไปเพราะเลียนแบบกระแสในโลกออนไลน์

ขณะที่ นายปรัชญายุทธ ได้ยอมรับว่า ตนเองได้ละเมิดกฎหมายอนาจารในที่สาธารณะ ทำให้เจ้าตัวถูกศาลแขวงเวสต์มินสเตอร์สั่งห้ามเข้าเขตเมืองเวสต์มินสเตอร์เป็นเวลา 4 เดือน และจะต้องติดอุปกรณ์ติดตามตัว รวมถึงต้องเสียค่าปรับให้แก่ผู้เสียหายด้วย

ภาพและข้อมูลจาก

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก dailymail.co.uk