ไทยตื่นสาย..ดีกว่าไม่ตื่น ‘สมคิด’ ชี้อีก 3-4 ปี โอกาสทองเเต่เสี่ยง รีบเปลี่ยนโครงสร้าง ศก.สู่ดิจิทัล

https://www.matichon.co.th/news/

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวปาฐกถาพิเศษ Thailand’s development landscape forward ในงาน “Digital Intelligent Nation 2018” ว่า การประกาศตัวเลขจีดีพีเมื่อปี 2560 เติบโต 3.9% และประมาณการณ์ว่า จะเติบโตถึง 4.1% ในปี 2561 อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดและเพดานของเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิมเก่า และไม่สามารถแข่งขันได้ จึงไม่สามารถขยายตัวทะยานต่อไปได้

“โอกาส” คือเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว เอเชียเป็นบ่อทอง และไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ขณะที่ “ความเสี่ยง” คือถ้าไม่เปลี่ยนแปลงวันนี้ อนาคตลำบาก แข่งขันไม่ได้ เพราะโลกกำลังตื่นและดิจิทัลกำลังทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป

“ประเทศไทยตื่นสายนี่เป็นเรื่องจริง เราเพิ่งตื่นมาไม่ถึง 3 ปี ทางการยังไม่ตื่น เอกชนตื่นยังไม่มาก เเต่ตื่นสายดีกว่าไม่ตื่น เอกชนตื่นขึ้นมาคึกคัก ให้ความสำคัญกับดิจิทัล เชื่อว่าเอกชนไทยไม่เเพ้ที่ใดในโลก รัฐบาลก็ตื่นเเล้วก็พยายามปลุกคนไทยให้ตื่นทั้งประเทศ แต่ว่าเรากำลังก้าวไปสู่อีกยุค ที่ไม่ใช่เเค่พฤติกรรม เเละความคิด เเละครอบคลุมทั้งหมด”

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจะทำ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อไปสู่ “ดิจิทัล ฟอร์ ออล” เพื่อให้ทุกคนในประเทศก้าวไปพร้อมกัน อาทิ อินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล เพราะประเทศไทยประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำสูง

2.การเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจรูปแบบเดิมไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดิจิทัล ไดรเวอร์ อีโคโนมี” เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวแบบ “ยกกำลัง” และขยายตัวเป็นทวีคูณ โดยมี SMEs และ Startup เป็นกำลังสำคัญ ไปสู่การสร้าง “นักรบธุรกิจใหม่” หรือ “นิวเวอริเออร์”

3.ประการสำคัญ คือ “ดิจิทัล รีดเดอร์ชิพ กอพเวอร์เนนท์” เพราะภาครัฐเป็นกำลังหลักในการผลักดันภาคเอกชน เช่น Big data Open data เพื่อไปสู่ Smart data ในการเพิ่ม Value ให้กับสินค้าและบริการ

4.ประการสุดท้ายแต่สำคัญที่สุด คือ “ดิจิทัล โพลิติกส์” เพื่อนำไปสู่การริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ตามความต้องการของประชาชน โดยผ่านการสื่อสารจากประชาชนโดยตรงไปถึงรัฐบาลแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.)